Search
Close this search box.

เชื้อ HPV คืออะไร ? ทำไมจึงควรรักษาและป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ

เชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) คือ ภัยเงียบที่เป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งปากมดลูกในผู้หญิง หากตรวจพบได้ไวก็จะสามารถป้องกันและรักษาโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่บ่อยครั้งผู้ป่วยมักละเลยการตรวจสุขภาพ และไม่กล้าไปพบแพทย์ จนเชื้อไวรัสเปลี่ยนเซลล์เนื้อเยื่อเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้

เชื้อ HPV คืออะไร ?

HPV (Human Papillomavirus) เป็นกลุ่มไวรัสที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ พบได้บ่อยบริเวณอวัยวะเพศ ก่อให้เกิดการติดเชื้อในเนื้อเยื่อบุผิว (Epithelial Tissue) ของร่างกาย อย่างผิวหนังชั้นนอก (Epidermis), เยื่อเมือกในอวัยวะเพศ เช่น ปากมดลูก ช่องคลอด, อวัยวะเพศชาย, ทวารหนัก, ช่องปากและลำคอ รวมถึงลิ้นและต่อมทอนซิล 

การติดเชื้อนี้อาจทำให้เกิดหูดและในบางกรณีอาจนำไปสู่การเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะในอวัยวะเพศและช่องปาก

 

ประเภทของเชื้อ HPV

สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ 

  1. ชนิดก่อมะเร็ง มีทั้งหมด 14 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งหลัก ๆ คือสายพันธุ์ 16 และ 18 
  2. ชนิดไม่ก่อมะเร็ง แต่เป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ อย่างหูดหงอนไก่ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 6 และ 11

 

ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV

การติดเชื้อ HPV มีปัจจัยเสี่ยงหลากหลายประการที่ต้องระมัดระวัง ดังนี้ 

  • มีคู่นอนหลายคน ยิ่งมีคู่นอนจำนวนมาก ก็ยิ่งเสี่ยงมาก 
  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากในช่วงวัยรุ่นเนื้อเยื่อบุผิว (Epithelial Tissue) โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศยังบอบบางอยู่เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเต็มที่ นอกจากนี้ยังเพิ่มโอกาสต่อการรับเชื้อที่เร็วและนานขึ้น จึงควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูกตั้งแต่เด็ก เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV 
  • มีลูกหลายคน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูก ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น 
  • มีประวัติเคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ อาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงและติดเชื้อได้ง่าย 
  • ติดเชื้อ HIV หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อต้านเชื้อโรคได้ 
  • มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่ใส่ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ 
  • สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ หรือการได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งปากมดลูก 

 

อาการที่พบได้บ่อย

ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อติดเชื้อ HPV จะไม่มีอาการที่เด่นชัด ผู้หญิงบางคนจึงไม่รู้ว่าตนเองติดเชื้อไปแล้ว แต่บางรายอาจจะมีอาการดังต่อไปนี้ 

  • เกิดอาการแสบ ร้อน หรือคัน บริเวณที่ติดเชื้อ 
  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีสีที่ผิดปกติ 
  • เลือดออกผิดปกติ โดยเฉพาะหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 
  • เกิดหูดบริเวณอวัยวะเพศ 
  • ปวดท้องน้อย ในกรณีที่เชื้อมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น 


กว่าเชื้อ HPV จะพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็ง จะใช้เวลามากกว่า 10 ปี และแฝงตัวอยู่ในร่างกายของเราเงียบ ๆ ดังนั้น หากมีอาการผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำก็จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักก็คือ การติดเชื้อ HPV ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโรคมะเร็ง เพียงแต่มีความเสี่ยงสูง และต้องเฝ้าระวังมากกว่าเดิม 

 

โรคที่พบหลังจากการติดเชื้อ HPV

การติดเชื้อ HPV สามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงได้หลากโรค ไม่เพียงแต่ในผู้หญิง แต่ยังพบได้ในเพศชาย และเพศอื่น ๆ จึงสามารถกล่าวได้ว่า HPV เป็นอันตรายต่อทุกคนที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์ จึงควรได้รับวัคซีน HPV โดยเฉพาะในกลุ่มที่กำลังจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์หรือก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงที่การฉีดวัคซีนจะได้ผลดี (Effective) สูงสุด

  • มะเร็งปากมดลูก มีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อ HPV เป็นโรคเอชพีวีที่พบได้บ่อยที่สุดในเพศหญิง
  • มะเร็งองคชาต เป็นการติดเชื้อในผู้ชาย หากได้รับเชื้อเอชพีวีมา แต่ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้ก็อาจจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งในท้ายที่สุด
  • มะเร็งทวารหนัก พบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง แต่มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
  • มะเร็งช่องปากและลำคอ พบในผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือ Oral Sex 
  • หูดหงอนไก่ พบได้ในผู้ที่ติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 6 และ 11 

  

การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ในประเทศไทยมี 3 วิธี ดังต่อไปนี้ 

  • ตรวจหาเชื้อ HPV (HPV testing) มีทั้งการตรวจแบบระบุชนิดของสายพันธุ์ และแบบไม่มีการตรวจระบุสายพันธุ์ 
  • ตรวจเซลล์วิทยาของปากมดลูก (Cervical Cytology) สามารถแบ่งเป็น 2 วิธี คือ ตรวจแบบดั้งเดิม หรือที่รู้จักกันว่า Pap Smear และการตรวจแบบ Liquid-Based Cytology หรือ Thin Prep Pap Test  
  • ตรวจด้วยน้ำส้มสายชู (Visual Inspection with Acetic Acid, VIA) ร่วมกับการจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น แล้วสังเกตการเกิดฝ้าขาวบนเยื่อบุปากมดลูก 

 

คำแนะนำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

อายุ

คำแนะนำของ RTCOG ค.ศ. 2020

น้อยกว่า 25 ปี

ไม่แนะนำให้ตรวจคัดกรอง

25-65 ปี 

– ควรตรวจ HPV testing ทุก 5 ปี 

– ตรวจเซลล์วิทยาของปากมดลูก ทุก 2 ปี 

– หากอยู่ในพื้นที่ที่ตรวจด้วย 2 วิธีข้างต้นไม่ได้ผล ให้ตรวจโดยการใช้น้ำส้มสายชูร่วมกับการจี้ปากมดลูกด้วยความเย็น ทุก 5 ปี

มากกว่า 65 ปี 

– หากผลตรวจเป็นปกติติดต่อกัน 10 ปี ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง

– หากช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังคงมีเพศสัมพันธ์หรือมีคู่นอนหลายคนควรตรวจคัดกรองตามปกติ  

 

การรักษาการติดเชื้อ HPV

   แนวทางการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการ สายพันธุ์ และการเกิดโรค ดังนี้ 

  • กรณีที่เป็นหูด จะรักษาด้วยยาทาเฉพาะที่ จี้ด้วยไฟฟ้าหรือความเย็น หรือผ่าตัดเอาหูดออก 
  • กรณีที่พบความผิดปกติของเซลล์ที่ปากมดลูก แต่ยังไม่พัฒนาเป็นเซลล์มะเร็ง จะผ่าตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย (LEEP) หรือการจี้ด้วยความเย็น เพื่อรักษาความผิดปกติ
  • กรณีที่เป็นมะเร็ง จะรักษาตามระยะ โดยมีทั้งการผ่าตัด ทำคีโม หรือการฉายรังสี

การป้องกันเชื้อ HPV

การป้องกันติดเชื้อ HPV เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และเริ่มปกป้องร่างกายของเราด้วยตัวเราเอง ดังนี้ 

  • ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก โดย WHO แนะนำให้เด็กผู้หญิงฉีดวัคซีนตั้งแต่อายุ 9-14 ปี ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่ก็เป็นการลดความเสี่ยงลงได้ 
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อ 
  • งดสูบบุหรี่ และไม่รับควันบุหรี่มือสอง เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV และมะเร็งปากมดลูก 
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ และตรวจหาเชื้อ HPV อย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาแต่เนิ่น ๆ 

 

ตรวจเชื้อ HPV ที่ ReadyCheckGo

การป้องกันการติดเชื้อ HPV ทำได้โดยการป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย แต่หากคุณมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่ใส่ถุงยางอนามัย หรือถุงยางแตก ควรเข้ารับการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการลุกลามของอาการ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในอนาคต 

นัดหมายกับแพทย์ที่ ReadyCheckGo วันนี้ เพื่อรับการตรวจและรับคำแนะนำที่เหมาะสม โดยสามารถเลือกรับบริการได้ที่คลินิกสาขาสีลม ทองหล่อ และสมุย หรือให้แพทย์ไปตรวจที่ที่พักของคุณเองได้ (เฉพาะในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง) พร้อมมีบริการเลือกตรวจโรคทางเพศสัมพันธ์แบบนิรนาม (Anonymous Test)

ข้อมูลอ้างอิง 

simple & private under medical standard

Express STDs
test & treat in Bangkok

No need to go to hospital, you can get
Then, receive your online results!
Prioritize privacy with our anonymous STD testing service.

Open to all with enthusiastic staff catering to diverse genders and ethnicities.

Silom branch

Near BTS Chong-nontri

Sukhumvit branch

BTS Thong-lo (Exit 3)

บทความที่น่าสนใจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

คลินิกโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์, สีลม I สะดวก เป็นส่วนตัว

บริการทั้งหมดที่เกี่ยวกับโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์

รายละเอียดการรับยา PEP และการตรวจ STDs เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ดูราคาและรายละเอียดการตรวจโรคติดต่อทางเพสสัมพันธ์ต่าง ๆ

Shield Against HIV Risk

ดูรายละเอียดราคาและการรักษาโรติดต่อจากเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ

ดูรายละเอียดราคาและเรียนรู้เรื่อง HPV อันตรายอย่างไรพร้อมวิธีการป้องกัน

ตรวจสุขภาพทั่วไปภายในไม่กี่นาที, สะดวก เป็นส่วนตัว

บริการตรวจเลือดตามรายการตรวจ